Starting my path in AIT & RTG Fellowship

ตอนแรกเลย รู้จักสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือเรียกสั้นๆ ว่า AIT ตอนที่เรียนหลักสูตร Data Analytic for Upskilling ที่จัดทำร่วมกันระหว่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กับ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) และ SCB Academy 

มันต้องเข้าไปเรียนในเว็บไซต์ http://aitshare.ait.ac.th/ ของ AIT เลยทำให้รู้จักไปโดยปริยาย แต่ก็ยังไม่ได้สนใจตัวมหาวิทยาลัยอะไรขนาดนั้นในตอนนั้น ชอบเพราะหลักสูตรการสอน ทำออกมาดีมากๆเฉยๆ ประทับใจการสอน รวมถึงการติดตามผลมากๆ อันนี้ก็ต้องยกเครดิตให้ทั้ง Depa, AIT และ SCB Academy ถ้ามีเปิดอีกครั้ง ยังไงก็อยากให้ทุกคนได้ลองเรียน มันดีมากๆ

จนมาถึงช่วงที่ต้องตัดสินใจว่าเราจะเรียนต่อ หรือ ทำงานดี สุดท้ายก็เลือกว่า จะหาทุนเพื่อเรียนต่อดีกว่า เพราะถ้าทำงานตอนนี้ก็น่าจะออกมาเตะฝุ่น เพราะโควิดแหละ (ตอนนั้นเหมือนจะซา สุดท้ายก็มารอบใหม่อยู่ดี)

ตอนนั้นมีทุนอยู่ในใจ แค่ทุนเดียวคือ ทุนของ กพ. เพราะถ้าไม่ได้ทุนเต็มก็คงไม่เรียนต่อ รวมถึงภาษาอังกฤษเราไม่ดีมากเท่าไร ไม่มีคะแนนภาษาเลย ก็คิดว่า เออเราจะไปประเทศไหนได้บ้าง เสิร์ซดูว่า ถ้าเราติดทุน เราเลือกเรียนในไทยได้ไหม เพราะไม่อยากไปอยู่ไกลเท่าไร คิดกระทั่งว่าจะตอบยังไงดี เรื่องเหตุผลที่จะเรียนในไทย ฮาาา

สุดท้ายเลยเลือกที่เปิดดูว่า ในลิสต์สถาบันที่ กพ. ให้เข้าศึกษาได้ของปีก่อนๆ มีที่ไหนบ้าง จนไปเจอ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียที่อยู่ในลิสต์

เหมือนภาพก็ย้อนกลับมาว่า เออ เราเคยเห็นทุนเรียนต่อ AIT ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมอบทุนเรียนต่อป.โท สาขา Marine Plastic Abatement (MPA) เรียนฟรี 100% นี่หน่า เลยคิดว่า AIT น่าจะมีทุนการศึกษาอยู่ค่อนข้างเยอะ

เริ่มจากลองค้นดู ก็เจอทุนการศึกษาอยู่ค่อนข้างหลากหลายทุน ถ้าไม่มีผลวัดระดับภาษาอังกฤษ ก็สามารถสอบวัดระบบของสถาบันได้เลย เลยตัดสินใจว่าจะลองสมัครดู เพราะตั้งใจว่าจะเอาทุน RTG Fellowship ใครสนใจทุนนี้ เข้าไปดูต่อได้ที่นี่เลย

ขั้นตอนการสมัคร

จริงๆมีคนอธิบายไว้เยอะและ เข้าไปดูในเว็บ เค้าก็จะอธิบายละเอียดอยู่ https://www.ait.ac.th/admissions/ เว็บนี้เลยย

Tip: ส่งไปสมัครไปก่อนก็ได้ ข้อมูลเอกสารที่ยังไม่มี เช่น ผลวัดระดับภาษาอังกฤษ เอกสารต่างๆ ค่อยส่งทีหลังได้ หลังจากที่เราส่งใบสมัครเข้าไปแล้ว จะมีฝ่ายรับสมัครดูแลนักศึกษา ของแต่ละคณะมาคอยดูแลเรา ดูว่าเอกสารขาดอะไรบ้าง ถ้ามีคำถามอะไร ก็สามารถถามเค้าได้เลยยย

สำหรับคนไทย จริงๆถ้าเข้าเกณฑ์ทุนนั้นๆแล้ว เค้าจะเสนอทุนให้เลย ว่าเราจะได้ทุนอะไร อย่างเช่นทุน RTG ที่เป็นทุนที่รัฐบาลมอบให้ ก็จะมีทุนหลายประเภท ทั้งแบบ 100% 75% 50% บางทีถ้าเรามีคุณสมบัติครบ แต่ไม่ได้ทุน 100% ก็อาจจะเพราะว่า สมัครช้าเกินไป อาจจะรอลุ้นทุนที่สูงกว่า อย่างทุน King หรือ Queen ก็ได้ เพราะเวลาในการคัดเลือกทุนนี้ จะคัดเลือกทีเดียว ปิดรับสมัครช่วงเดือนมีนาคม

ตัดสินใจเลือกคณะยังไง

ด้วยความที่เราจบสายศิลปศาสตร์มา เลยต้องดูด้วยว่าเราสามารถจะต่อคณะไหน สาขาไหนได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่หลายๆคณะใน AIT ค่อนข้างเปิดกว้างมากๆ เราจะสมัครสาขาไหนก็ได้ ถ้าเค้าไม่ได้มี perferred backgroud โดยสามารถเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ของแต่ละ School เลย (ที่ AIT จะเรียก คณะว่า School มีอยู่ 3 School )

ปล. สาขาที่สมัครได้ คือสมัครได้เยอะจริงๆ เยอะมากกกกกก ทั้งนั้นทั้งนี้ เราต้องดูด้วยว่าเราจะตามเค้าไหวไหม ถ้าเราไม่ได้เรียนตรงสายมา แต่บางสาขา ก็จะมีปรับพื้นฐานให้ด้วย

อันนี้คือ ตัวเลือกที่เราเลือกมา

• Internet of Things (IoT) Systems Engineering, School of Engineering and Technology
• Remote Sensing & Geographic Information Systems (RS-GIS), School of Engineering and Technology
• Business Analytics & Digital Transformation (BADT), School of Management
• Masters of Business Administration (MBA), School of Management

จริงๆจะมีอีก School คือ School of Environment, Resources and Development

เพราะว่าชอบเรื่องเทคโนโลยีด้วย เลยจะเน้นออกไปทางสายเทคโนโลยี ลองไปฟัง open house ของ RS-GIS ดู ก็รู้สึกชอบมากๆ รู้สึกว่า เราน่าจะเอาไปต่อยอด ด้านการทำการเกษตรได้ แต่ก็สนใจสาขา IoT ด้วย เพราะมันจะได้เรื่องการทำระบบจัดการ พี่ๆRS-GIS เค้าเชียร์ให้เรียนสาขานี้มากกว่า เพราะเรื่องเทคโนโลยีการเกษตรเค้ามีอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว จะตรงกับที่เราสนใจมากกว่า แนะนำให้รีบส่งใบสมัครเลย เพราะทุน RTG มีไม่เยอะมาก

สุดท้ายก็กดสมัครเลือกสาขา Master of Business Administration (MBA) ในวันนั้นหลังจากที่ฟัง open house ของ RS-GIS จบ แหะๆ

เพราะรู้สึกว่าเราเหมาะกับการเรียนรู้กว้างๆมากกว่าลงลึกไปในด้านใดด้านหนึ่ง บวกกับชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยากจะทำอะไรหลายๆอย่าง เลยคิดว่า MBA น่าจะเหมาะกับเรามากกว่า

ความรู้สึกตอนช่วงสมัคร คือ แพนิคมากกก ต้องตอบเมลเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยย ถ้าใครจะสมัคร แนะนำว่าศึกษาวิธีตอบเมลเพิ่มด้วย

MBA จะเป็นยังไงนั้น ต้องรอติดตามตอนต่อไป